10 ข้อแตกต่าง ของการซื้อและการเช่าที่อยู่อาศัย ที่อยู่อาศัย 1ในปัจจัย4 ที่สำคัญ ควรซื้อหรือควรเช่า?
Updated: Dec 6, 2020
บ้าน หรือ ที่อยู่อาศัย เป็น1ในปัจจัย4 ที่ทุกคนต้องมีเพื่ออยู่อาศัย ไม่ว่าจะด้วยการซื้อหรือการเช่า และบ้านก็ยังเป็นความฝันของใครหลายๆคนที่คิดอยากจะมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่เราควรจะซื้อหรือควรจะแค่เช่าอยู่ดีนะ!? เรามาดู 10 ข้อแตกต่างระหว่างการซื้อและการเช่าที่อยู่อาศัย และสำรวจความพร้อมของตัวเองว่าเราควรจะซื้อหรือเราควรจะเช่า
ซื้อไปเลย ดีกว่าเช่าตั้งเยอะ !
1. ซื้อก็ต้องผ่อน เช่าก็ต้องจ่ายค่าเช่าทุกเดือน ซื้อไปเลย ไม่เสียเงินเปล่า
แม้ว่าส่วนใหญ่การจ่ายค่าเช่ามักจะถูกกว่าการผ่อน แต่ก็ไม่ได้แตกต่างและไม่ได้ถูกกว่ากันมากนัก ทำให้การซื้อเป็นทางเลือกที่ดูดีกว่าการเช่า เพราะถ้าหากเราต้องจ่ายค่าเช่าทุกเดือน ทำไมเราไม่ซื้อเองซะเลยล่ะ ผ่อนหมดบ้านก็เป็นของเรา ดีกว่าเอาเงินไปผ่อนให้คนอื่นนะ
2. ซื้อสิ จะได้มีสินทรัพย์เป็นของตัวเอง
การซื้อบ้านหรือที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง ก็คือการซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ที่นับวันมีแต่ราคาที่ดินจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆไปตามกาลเวลา ดังนั้น หากเราซื้อบ้านหรือคอนโดในทำเลดีหรือทำเลที่กำลังอยู่ในแผนการพัฒนาที่ดิน ก็จะส่งผลให้ราคาสินทรัพย์ของเราสูงขึ้น และสามารถขายทำกำไรได้ในอนาคต ในทางกลับกัน หากเราเช่าบ้านหรือคอนโดในทำเลที่ดี เราอาจโดนเจ้าของบ้านขึ้นค่าเช่าเนื่องจากราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้นอีกด้วย
3. บ้านเราเอง ตกแต่งต่อเติมได้ตามใจ
เมื่อซื้อที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโด เรามักจะสนุกกับการตกแต่งต่อเติมบ้านของเราให้เป็นไปตามสไตล์ที่เราชอบ เช่น การทำเฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อิน ติดวอลเปเปอร์ หรือการต่อเติมส่วนต่างๆ ก็สามารถทำได้ตามต้องการ เพราะเป็นบ้านของเราเอง ซึ่งถ้าเราเช่าบ้านหรือคอนโดอยู่ แล้วมีการตกแต่งเปลี่ยนแปลงแบบไปจากเดิม เราจะต้องโดนหักค่ามัดจำที่จ่ายไว้และอาจเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการคืนสภาพบ้านหลังจากหมดสัญญาเช่าให้กับเจ้าของบ้านอีกด้วย
4. ดอกเบี้ยที่เสียไปไม่เสียเปล่า เพราะได้รับสิทธิ์ในการลดหย่อนภาษี
การกู้ซื้อที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโด แน่นอนว่าเราจะต้องเสียดอกเบี้ยให้กับสถาบันการเงินเป็นจำนวนมาก แต่ดอกเบี้ยที่เสียไปไม่ได้เสียไปเปล่าๆ เราสามารถนำหนังสือรับรองดอกเบี้ยเงินกู้รายปีไปยื่นลดหย่อนภาษีได้ ทำให้เราประหยัดภาษีที่จะอาจจะต้องจ่ายเพิ่ม หรืออาจจะได้เงินภาษีคืนอีกด้วย
5. เหมาะกับคนรักสัตว์ ซื้อบ้านของตัวเอง สามารถเลี้ยงสัตว์ได้
บ้านหรือคอนโดให้เช่าโดยส่วนใหญ่เจ้าของบ้านมักจะไม่ค่อยอนุญาตให้ผู้เช่าเลี้ยงสัตว์ ซึ่งถ้าหากเราต้องการที่จะเลี้ยงสัตว์ การซื้อบ้านหรือคอนโดที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับคนรักสัตว์
เช่าดีกว่า จะซื้อทำไมให้เป็นภาระ !
6. คนเช่าสบาย ไม่มีภาระค่าใช้จ่ายจุกจิก
การเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโด เจ้าของบ้านจะต้องรับภาระในการจ่ายส่วนกลาง และค่าบำรุงสาธารณูปโภคประจำทุกปี แล้วยังมีค่าข้าวของตกแต่งเพื่อให้เช่า ค่าซ่อมบำรุงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ค่าล้างแอร์ทุกครึ่งปี ค่าซ่อมแซมในกรณีมีปัญหา ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ เจ้าของบ้านเท่านั้นที่จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบโดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
7. คล่องตัวในการใช้ชีวิต สะดวกต่อการโยกย้าย
หากเราทำงานในเมืองและต้องการเช่าที่อยู่ที่สะดวกต่อการไปทำงาน หรือหากเรายังไม่แน่ใจว่าจะลงหลักปักฐานในทำเลไหนดี การเช่าเป็นคำตอบที่ดีที่สุด เพราะสามารถโยกย้ายที่อยู่ได้ง่าย หากมีการเปลี่ยนสถานที่ทำงาน เราก็สามารถย้ายไปเลือกเช่าอยู่ใกล้ๆที่ทำงานได้ หรือหากเจอเพื่อนบ้านไม่ดี ก็ไม่ต้องอดทนให้เสียประสาท เพราะเราสามารถย้ายออกและหาเปลี่ยนที่อยู่ใหม่ได้
8. ไม่มีหนี้ก้อนโต ที่ต้องผ่อนระยะยาวให้ปวดหัว
การซื้อที่อยู่อาศัยโดยการกู้ธนาคารและผ่อนจ่ายนั้น อาจทำให้เราปวดหัวและวิตกกังวลกับภาระหนี้ก้อนโตที่ผ่อนไม่รู้จบ การผ่อนบ้านหรือคอนโดส่วนใหญ่ตามระยะเวลากู้ซื้อในสัญญามักจะผ่อนมากกว่า 20 ปีขึ้นไป แล้วถ้าวันนึงเราเกิดตกงานขึ้นมา มีช่วงว่างงาน จะหาเงินที่ไหนมานั่งผ่อนล่ะ แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว ถ้าไม่พร้อมกับการมีภาระหนี้สินผูกพันระยะยาว ควรไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย เพื่อจะได้ไม่ต้องมีภาระหนี้ระยะยาวในอนาคต
9. ไม่เสียโควตาเครดิต
การกู้ซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง จะต้องใช้เครดิตของเราในการกู้ซื้อ เครดิตในที่นี้คือเอกสารต่างๆที่แสดงรายได้เพื่อแสดงให้เห็นศักยภาพในการผ่อนชำระหนี้ โดยปกติแล้ว สถาบันการเงินจะกำหนดว่าเราสามารถเป็นหนี้ได้ไม่เกิน 60% ของรายได้ เช่น เงินเดือน 20,000 บาท จะถูกหักเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวประจำเดือน 40% ของรายได้ นั่นก็คือ 8,000 บาท ดังนั้น ความสามารถในการผ่อนชำระต่อเดือนของเรา ก็จะอยู่ที่ไม่เกิน 12,000 บาท ซึ่งถ้าสมมติว่าเราต้องผ่อนบ้านเดือนละ 12,000 บาท แปลว่าเราได้ใช้เครดิตไปกับการกู้ซื้อบ้านเต็มวงเงินแล้ว เราจะไม่สามารถกู้ซื้อหรือกู้เงินเพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้อีก
10. ไม่เสียเงินก้อนจำนวนมากในคราวเดียว
การซื้อที่อยู่อาศัย ส่วนใหญ่จะต้องมีการจ่ายเงินเป็นก้อนให้กับการผ่อนดาวน์ การโอนกรรมสิทธิ์และการชำระค่าธรรมเนียมในการซื้อ ถ้าหากเรายังไม่พร้อมที่จะใช้เงินจำนวนมากในคราวเดียวหรือไม่พร้อมที่จะนำเอาเงินเก็บออกมาใช้ เราก็ควรชะลอโครงการเอาไว้ก่อนเพื่อลดการเกิดปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงินทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอีกด้วย
